มือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับการสักปาก สักคิ้ว

ประเภทของรอยสัก
รอยสักจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ

• แบบถาวร โดยการสักแบบถาวรนั้นจะเน้นสักให้เม็ดสีซึมลึกอยู่ในชั้นหนังแท้ และรอยสักแบบนี้จะอยู่ทนกว่าการสักแบบอื่นค่ะ แต่มันจะไม่ตลอดไปจะมีช่วงเวลาในการจางอยู่ จะอยู่ที่จางลงไปทุก 2-3 ปี ซึ่งสุดท้ายจำเป็นต้องไปซ้ำหากต้องการให้รอยสักยังคงชัดเจนอยู่ค่ะ การสักประเภทนี้จะเหมาะกับการสักบางอย่างเท่านั้น และไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายเท่าไหร่เนื่องจากหากผิดพลาดแล้วจะแก้ไขได้ยากมากๆ รวมถึงทำการลบยากอีกด้วย การสักเพื่อความงามในปัจจุบันก็แทบจะไม่ใช่แบบถาวรอีกแล้วค่ะ จะเป็นกึ่งถาวรกันไปหมดแล้ว
• แบบกึ่งถาวร โดยการสักประเภทนี้ จะเน้นสักให้สีซึมอยู่ที่ชั้นผิวหนังชั้นอกนเท่านั้น หากเทียบให้เห็นภาพคือจะลึกแค่ความหนาของกระดาษ A4เท่านั้นเพือป้องกันการเปลี่ยนสีในอนาคตค่ะ การสักประเภทนี้จะค่อยจางลงเมื่อครบ 8 เดือน-1 ปี หากไม่ไปทำการซ้ำค่ะ ข้อดีของการสักประเภทนี้คือง่ายต่อการลบรวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนได้ในอนาคตเมื่อต้องการ เนื่องจากคิ้วจะค่อยๆจางไปเรื่ยยๆค่ะ

ข้อดีของการสักเพื่อความงาม
ในแง่ของ การสักคิ้วสักปากนั้น การสักเพื่อความงามนั้นจะช่วยประหยัดเวลาในการแต่งตัวไปค่อนข้างมากเนื่องจาก ไม่จำเป็นต้องทำการเล็งโครงคิ้วทุกวันในเคสของการสักคิ้วรวมถึงการสักปากเองก็ช่วยในเรื่องให้หน้ายังคงมีสีสันแม้วันที่ไม่ได้แต่งหน้าก็ตามค่ะ อีกทั้งยังช่วยเรื่องความมั่นใจในการใช้ชีวิต รวมถึงความมั่นใจในส่วนร่มผ้าอย่างพวกการสักอำพรางรอยแผล รอยแตกเป็นและการสักนมชมพู และ ยังรักษาจิตใจในเคสของการสักนมเพื่อการทดแทนในเคสของผู้ที่ต้องตัดนมในกรณีเป็นมะเร็งเต้านมอีกด้วยค่ะ

การสักเพื่อความสวยเจ็บหรือเปล่า
แน่นอนว่า การสักเพื่อความงามเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนที่มีความเซนซิเทฟอย่างมาก ไม่ว่าจะคิ้วหรือปาก หรือรอยแผลเป็นหรือลานนมเองก็ตาม ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่มีความเจ็บเกิดขึ้นเสมอค่ะ เนื่องจากเป็นการใช้เข็มเป็นตัวนำสีไปฝังไว้ที่ผิวหนัง แต่โดยในปัจจุบันแล้ว การสักเพื่อความงามในปัจจุบันนั้นค่อนข้างแพร่หลาย การมีบริการยาชาแบบทาเกิดขึ้นมาจึงตอบโจทย์ให้ลูกค้าเช่นกันค่ะเพื่อลดความเจ็บและยาชาในปัจจุบันนั้นพัฒนามาไกลมากแล้วจึงทำให้บรรเทาการเจ็บไปอย่างมาก ในบางเคสอาจจะสามารถหลับไปได้เลยระหว่างการสักที่ยาวนานค่ะ